หากถามถึง ไก่มงคล ที่มีได้รับการยอมรับจากกลุ่มนิยม ไก่ชนไทย ไม่มีใครไม่รู้จักกับ ไก่ด่างเบญจรงค์ หรือ ไก่ห้าพระยา นี่คือ ไก่ด่าง ที่มีความโดดเด่นด้วยสีขน 5 สี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และที่สำคัญยังมีความเชื่อว่าไก่ชนิดนี้ จะนำพาเกียรติยศ โชคลาภ และความมั่งคั่งแก่ผู้เลี้ยง และวันนี้ทาง เว็บไก่ชน จะขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ ไก่ชนพื้นเมือง สายพันธุ์นี้กันให้มากยิ่งขึ้น
ทำความรู้จัก ไก่ด่างเบญจรงค์ ไก่ชนพื้นเมือง สัญลักษณ์โชคลาภ
สำหรับ ไก่ด่างเบญจรงค์ หรือที่รู้จักกันในนาม ไก่ห้าพระยา ถือเป็นหนึ่งใน ไก่พื้นบ้าน ที่มีค่ามากที่สุดในเชิงมงคล และศักดิ์สิทธิ์ ด้วยลักษณะขนห้าสีที่สวยงามโดดเด่น คือ ขาว, ดำ, เหลือง, แดง และเขียว ซึ่งครบครันไปด้วยคุณค่าทางความเชื่อไทย ไก่ด่างเบญจรงค์นี้ถูกนับถือว่าเป็น “ไก่ขุน” หรือ “ไก่พระยาเลี้ยง” สะท้อนถึงอำนาจ เกียรติยศ และบารมี การได้เลี้ยงไก่ชนิดนี้ไว้หน้าบ้าน จึงถือเป็นเครื่องหมายแห่งสิริมงคลสูงสุด ที่จะช่วยเสริมโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทอง และความมั่งคั่งให้แก่เจ้าของ

นอกเหนือจากความงาม ที่สะดุดตาแล้ว ไก่ด่างเบญจรงค์ยังมีลักษณะเด่นที่แตกต่างจาก ไก่ชนพื้นเมือง ชนิดอื่น ด้วยความห้าวหาญ และบารมีที่เป็นเอกลักษณ์ ไก่ชนหรือไก่สกุลอื่น มักจะยอมแพ้ให้กับไก่ด่างเบญจรงค์หากได้พบกัน ซึ่งแสดงถึงอำนาจ ที่ยากจะหาได้ในไก่ชนประเภทอื่นๆ ในบางตำนานยังกล่าวว่าไก่ชนิดนี้เป็น “ไก่นำโชค” ที่มีพลังดึงดูดทรัพย์สินเงินทอง และโอกาสที่ดี สู่เจ้าของ
ไก่ด่างเบญจรงค์ยังถือเป็นมงคลสูง ยิ่งกว่า ไก่พระเจ้า 5 พระองค์ เนื่องจากมีขนห้าสีที่เรียกว่า “ด่าง” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยทั่วไปไก่ชนิดอื่น อาจมีเพียงสองถึงสี่สี แต่ไก่ด่างเบญจรงค์มีครบห้าสีตามตำราเชิงมงคล นอกจากนี้ ไก่ด่างเบญจรงค์ยังมีลักษณะเด่น 5 จุดสำคัญที่บ่งบอกถึงความเป็นมงคลสูงสุด ได้แก่ ขนสร้อยคอที่ต้องมีสามสี หางสองสี หัวปีกสามสี แคร่หลังที่มีสามสี และขนปกหูที่ต้องมีสามสี ซึ่งแต่ละจุดเป็นดัชนีบอกถึงความครบครันทางมงคล ที่เสริมสิริมงคลทั้งปวง การเลี้ยงไก่ด่างเบญจรงค์ จึงไม่เพียงแต่เป็นการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่สวยงาม แต่ยังเป็นการนำพลังแห่งโชคลาภ และบารมีมาสู่ชีวิตตามความเชื่อไทยโบราณ
ลักษณะของ ไก่ด่างเบญจรงค์ หรือ ไก่ห้าพระยา
ลักษณะเฉพาะของไก่ด่างเบญจรงค์ นั้นมีเอกลักษณ์สำคัญ 5 จุดที่ช่วยแยกแยะ ให้เห็นถึงความเป็น “เบญจรงค์” ซึ่งถือเป็นมาตรฐาน ในการดูความสมบูรณ์ และความสวยงามของไก่ชนแต่ละตัว ดังนี้

- ขนสร้อยคอที่มีสามสี ขนสร้อยคอของไก่ด่างเบญจรงค์ต้องประกอบด้วยสามสีที่แตกต่างกัน ได้แก่ ดำ, แดง, เหลือง หรือ ขาว, แดง, เหลือง โดยขนแต่ละเส้นจะมีการไล่สีอย่างสวยงาม เริ่มจากสีหนึ่งที่โคนขน เช่น สีดำหรือขาว ช่วงกลางสร้อยจะมีอีกสีหนึ่งที่เด่นชัด (มักจะเป็นสีแดงหรือเหลือง) และปลายสร้อยเป็นสีขาวหรือเหลืองอ่อน หากมีสีมากกว่าสามสี ก็จะถือว่าเป็นลักษณะพิเศษและมีคุณค่าเพิ่มขึ้นไปอีก
- หางที่มีสองสี หางของไก่ด่างเบญจรงค์ ต้องมีสองสีที่ตัดกันอย่างชัดเจน โดยโคนหางจะเป็นสีหนึ่ง และปลายหางเป็นอีกสีหนึ่ง การไล่สีเช่นนี้ทำให้หางมีความสง่างาม และเป็นที่สังเกตได้ง่าย
- หัวปีกที่ต้องมีสามสี บริเวณหัวปีกของไก่เบญจรงค์ จะต้องมีสามสีเช่นกัน ลักษณะสีที่แตกต่างกันนี้ เพิ่มความโดดเด่นให้กับ ไก่ชน ทำให้มีเสน่ห์ที่ดึงดูดใจผู้พบเห็น
- แคร่หลัง หรือ สร้อยหลังที่ต้องมีสามสี ขนบริเวณแคร่หลัง จะต้องมีสีสันที่หลากหลายครบสามสี คล้ายกับลักษณะของสร้อยคอ สีสันนี้ช่วยทำให้ลำตัวของไก่ดูเด่นชัด และสง่างาม นับว่าเป็นสัญลักษณ์ ของความเป็นเบญจรงค์ อย่างแท้จริง
- ขนปกหูที่ขาดสามสีไม่ได้ จุดสุดท้ายที่ถือเป็นเกณฑ์ ในการตัดสินความสมบูรณ์ของไก่ด่างเบญจรงค์ คือขนปกหูที่จะต้องมีสามสี หากมีครบตามลักษณะนี้ ไก่ด่างเบญจรงค์จะถือว่าเป็น ไก่มงคล ที่สมบูรณ์และมีค่าเป็นอย่างยิ่ง
ไก่ด่างเบญจรงค์ถือเป็นทั้ง ไก่มงคล และสมบัติที่มีคุณค่า ทั้งในด้านความเชื่อ และการสะท้อนถึงความภาคภูมิใจ ในวัฒนธรรมของการเลี้ยงไก่ มอบเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ ความเป็นสิริมงคล แก่เจ้าของอย่างแท้จริง
ติดตามเรื่องของสายพันธุ์ไก่ชน ได้ที่เว็บไก่ชนแห่งนี้
ตามความเชื่อดั้งเดิมของชาวไทย ไก่ด่างเบญจรงค์เป็น ไก่มงคล ที่มีคุณค่าสูงสุด และถือว่าควรค่าแก่การนำมาเลี้ยงไว้หน้าบ้าน ไม่เพียงแต่จะเสริมโชคลาภให้แก่เจ้าของ ยังช่วยนำความเจริญรุ่งเรืองและความสำเร็จมาสู่ครอบครัว เจ้าของไก่ด่างเบญจรงค์ มักเชื่อกันว่าความเจริญ จะไหลเข้ามาไม่ขาดสาย และได้รับเกียรติยศเช่นเดียวกับ “ไก่พระเจ้า 5 พระองค์” แต่มีความพิเศษเหนือกว่าด้วยความเป็น “เบญจรงค์” อันเป็นที่กล่าวขานถึง สามารถติดตามข้อมูลอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เกี่ยวกับไก่ชน ได้หน้าเว็บไซต์ของเรา
สนใจอ่านข้อมูลไก่ชนพันธุ์ต่าง ๆ : ไก่เขียวเลาหางขาว